“มาลองรถกันดีกว่า
อยากทดสอบประสิทธิภาพเครื่องล่างว่าเด้งดีไหม”
“อืม อือ”
ไม่ว่าเปล่า
ปากหยักกดจูบก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปอย่างง่ายดายเพราะร่างเล็กเปิดทาง
ทั้งสองจูบแจกลิ้นกันอย่างเมามัน มือหนาเลื่อนไปรูดซิบด้านหลังจนสุดลงไปถึงสะโพก
พวงมาลัยด้านหลังร่างเล็มที่คร่อมเขาบนตักไม่เป็นอุปสรรค์เพราะเขาเองเลื่อนเบาะมาด้านหลังและเอนเบาะสำหรับการทดลองประสิทธิ์ภาพช่วงล่างเรียบร้อย
กำปั้นเล็กทุบหน้าอกเขาเพื่อขออากาศหายใจก่อนจะกอบโกยอากาศได้ไม่กี่วิก็โดยช่วงชิงลมหายใจอีกครั้ง
ชานยอลลูบไปมาบนแผ่นหลังลื่นก่อนจะเกี่ยวตะขอชั้นในอย่างแผ่วเบาจนมันหลุดออกอย่างง่ายดาย
มือหนาเลื่อนตำแหน่งมาลูบต้นขาที่คร่อมตั้วเองอยู่ก่อนจะถลกกระโปรงขึ้นไปแล้วเกี่ยวชั้นในสีบางลงมาครึ่งก้นกลม
ทั้งๆที่ปากยังคงดูดดื่มกันไปมาไม่หยุด แบคฮยอนแทบจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตะขอชั้นในหลุดและกางเกงชั้นในใกล้จะหลุดออกจากตัวเต็มที
เมื่อปากผละออกจากกันก็ซุกไซร้คลอเคลียลำคอจนเกิดรอยสีกุหลาบ
รอยเก่ายังไม่ทันหายรอยใหม่มาเติมเต็มเรื่อยๆ ปากหยักพรมจูบเลื่อนลงไปเรื่อยๆไม่ลืมเกี่ยวชุดให้ล่นลงมาที่แขนจนเห็นเนินเต้าอวบอิ่ม
มือหนาทั้งสองข้างควักเนื้ออวบอิ่มออกมาจากเนื้อผ้าที่คาอยู่ที่แขน
ลิ้นร้อนไล่เลียลงมาจนจนถึงยอดอกก่อนเลียวนไปรอบๆแล้วดูดราวเด็กหิวนม
“อือ อะ มันเจ็บ
ฮื้อ” ทันที่ลิ้นร้อนสัมผัสเธอก็เจ็บไปรอบยอดอกจนน้ำตาเล็ด
“หื้อ? ทำไมเจ็บละ เมื่อคืนยังดีๆอยู่เลย
แล้วถ้าพี่ทำแบบนี้เจ็บไหม?”
นิ้วชี้เลื่อนมาสกิดเบาๆนั้นทำให้คนบนตักรีบจับมือเขาออกทันที
“เจ็บ ฮื้อ” มือเรียวที่คล้องคอเลื่อนมาปิดหน้าอกตัวเองทันที
มันเจ็บจนน้ำตาเล็ดจนไม่รู้ว่าทำไมทั้งๆที่มีอารมณ์แต่ไม่อยากให้ชานยอลสัมผัสเลย
“โอเค
งั้นพี่ไม่ยุ่งตรงนี้ละเนาะ” ชานยอลว่าพรางดึงชั้นในขึ้นมาใส่เกี่ยวตะขอเอาไว้เหมือนเดิมก่อนจะดึงเสื้ออีกคนให้ขึ้นตามแล้วรูดซิบด้านหลังขึ้นเหมือนเดิม
เอาแต่ข้างล่างก็ได้วะ
“อืม มันเจ็บจริงๆนะ”
“ไม่เป็นไรครับ
ต่อเลยดีกว่า”
ปากหยักเลื่อนไปป้อนจูบอีกครั้งเพื่อสานอารมณ์ที่ค้างต่อ
“อ่าห์ พี่ชานยอล
ซิบพี่มันโดน”
“อืม
ยกตัวหน่อยที่รัก”
บีนายลุกขึ้นยืนก่อนจะเกี่ยวชั้นในของตัวเองออกจากขาข้างหนึ่งแล้วให้มันห้อยไว้อีกข้าง
จากนั้นก็ควบลูกชายอีกคนไว้เมื่อได้ทำการปอกเปือกกล้วยเมื่อกี้
“อ่าห์”
“ซี๊ด”
ครางออกมาพร้อมกันเมื่อสัมผัสโดนจุดเสียว
แม้อยู่บนรถในที่แคบๆแต่ไม่เป็นอุปสรรค์ของทั้งสองคนเลยสักนิด
ครั้งนี้ทั้งคู่ไม่ได้ปลุกอารมณ์กันมากเหมือนอยู่ในห้องนอนแต่นั้นก็ทำให้ร่างกายทั้งสองจุดติดกันได้ไม่ยากโดยไม่ต้องเล้าโลมนาน
แค่จูบก็แฉะไปหมดแล้ว ส่วนชานยอลลูกชายเขาแข็งตั้งแต่ร่างเล็กควบแล้ว
“ออนท็อปให้ผัวนะครับ
เหนื่อยหน่อยนะที่รัก ผมอยากรู้ว่ารถคันนี้ทนแรกกระแทกไหม” คำพูดลามกมักหลุดออกจากปากของเราทั้งคู่ทุกครั้งเมื่อมีอะไรกัน
นั้นทำให้ปลุกอารมณ์ขึ้นมากเท่าตัว
“ถ้ารับแรงกระแทกไม่ดี
ขายทิ้งซะนะ” ยิ้มกรื่มพรางยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย
มือเรียวเอื้อมไปหยิบแท่งเอ็นที่แข็งโป้กจ่อปากทางเข้าโดยไม่เปิดทางก่อนจะกดทับลงไปจนสุดลำ
“อ่า อึก”
“ซี๊ดดดดดดดดด
ยังแน่นหมือนเดิมไม่สิรัดแน่นกว่าเดิม อ่าส์”
ชานยอลแทบปลดปล่อยทันที ช่องทางนั้นตอดรัดแน่นราวกับครั้งแรกเสมอ
มันไม่เคยหลวมลงเลยเหมือนยิ่งเอายิ่งแน่น
“อะ อะ อ่าส์ ชะ
ชานยอล”
เมื่อช่องทางคุ้นเคยแล้วก็ร่อนเอวใส่ไม่ยั่งราวกับอดอยากทั้งๆที่พึ่งมีอะไรกันเมื่อคืนจนเกือบเช้า
ชานยอลอึดเป็นบ้า เธอแหกขาแทบฉีก อีกคนก็กระแทกไม่ยั้ง
“แบคฮยอน อ่าห์” ครางออกมาอย่างสุขสม
มือหนาก็คอยจับสะโพกให้ขยับตามแรงร่อนเอวลูบแก้มก้นก่อนจะจับมันแยกเพื่อให้แท่งเอ็นเข้าลึกกว่าเดิม
“อึก อะ” ใบหน้าหวานเชิดครางด้วยความเสียวไปถึงท้องน้อย ทั้งเสียวทั้งจุก
“แบคฮยอน” เอ่ยเสียงแผ่วเบาเรียกคนที่ร่อนเอวอยู่บนตัว
ดวงตาเรียวเล็กปรือตามองคนที่เรียกแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะตอนนี้เธอไม่ว่าง
กำลังทดสอบช่วงล่างรถคันใหม่ของชานยอลอยู่แต่ใช่ว่าหูเธอจะไม่ฟังว่าอีกคนต้องการที่จะพูดอะไร
“พี่รักแบคฮยอนนะครับ”
ดันตัวขึ้นจากเบาะแล้วปรับให้ขึ้นมาพออิงได้ก่อนจะโน้มหน้าไปจูบปากจิ้มลิ้มด้วยความอ่อนโยนก่อนจะผละออกเอาหน้าผากชนอีกคนแล้วจ้องตาราวกับสื่อความหมายว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหก
“อะ อือ ระ
รู้แล้วน่า” หลบดวงตารัตติกาลที่มองนั้นจนทำให้จมูกโด่งกดลงที่แก้มที่ขึ้นสีระเรื่อ
จมูกโด่งคลอเคลียแก้มใสเบาๆจนเธอเขินอายทั้งที่ข้างล่างยังคงไปได้ด้วยกันดี
จากที่ในตอนแรกเธอเป็นคนร่อนเอวกลับกลายเป็นว่าตอนนี้ชานยอลเป็นคนคุมการสอดใส่แทนทั้งๆที่เธอยังควบอยู่ด้านบน
การทดลองประสิทธิ์ภาพด้านล่างยังคงไปได้ด้วยดีแม้ด้านบนยังคุยกันเหมือนปกติจนเหมือนคนไม่มีอะไรกัน
“รักพี่บ้างไหมคนดี
จะทรมานพี่ไปถึงไหน หื้มที่รัก?”
จับคางเรียวหันมาสบตากดปากหยักลงจูบเบาๆเพื่อรอคำตอบ เอวสอบก็สวนเด้งไปไม่หยุด
“อะ อ่าส์ มะ มาถาม
อะ อะไร ตะ ตอน อือ นี้” ให้ตาย ชานยอลคงบ้าไปแล้ว! เธอคิดแบบนั้น ทำไมต้องถามตอนใกล้เสร็จแล้วด้วย..
“ตอบก่อน รักกันไหม?
ถ้าไม่ตอบพี่จะหยุด” มันไม่ได้เป็นคำขู่
ชานยอลหยุดการสวนสะโพกเข้ามาพร้อมกับยกสะโพกเธอขึ้นช้าๆจนรู้สึกเริ่มโหว่งท้องทั้งๆที่ใกล้จะถึงจุดแล้วแท้ๆ
“อือ ไม่เอา
อย่าทำแบบนี้” มือเรียวจับมือหนาที่จับสะโพกมนออก
ก่อนจะกดสะโพกตัวเองลงไปอีกครั้งแต่ก็โดนรวบข้อมือไว้ด้วยมือข้างเดียว
“บอกพี่ก่อน
รักพี่บ้างไหม? คนดี พี่รักแค่แบคคนเดียว แบคไม่รักพี่บ้างหรอ?
เห็นใจกันหน่อยเถอะคนดี” เอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่มันก็ได้ยินชัดเจนสำหรับร่างเล็กอยู่ดี
ชานยอลพูดความตัดเพ้อ
หันหน้าออกไปทางแม่น้ำที่ตอนนี้มืดสนิทมีเพียงดวงจันทร์ที่สะท้อนบนน้ำเท่านั้น
“คะ คือ แบค คือ” ให้ตาย! ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้นะ
ทำไมชานยอลพูดแบบนี้เธอต้องใจกระตุกด้วย ไม่ชอบให้ชานยอลเป็นแบบนี้เลยให้ตาย
ยิ่งเห็นอีกคนทำหน้าตัดเพ้อเธอแค่ไหน ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายก็บีบรัดจนเจ็บไปหมด
“ถ้าไม่รักกัน พี่จะปล่อยแบคไป พี่ยอมแพ้แล้ว แบคคงไม่ได้รักพี่
พี่ขอโทษที่ขืนใจ พี่-” ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกนิ้วเรียวแตะให้หยุดพูดซะก่อน
เขาจึงหันมามองใบหน้าหวานที่เขารักอย่างไม่เข้าใจ
ในเมื่อเขาเองก็จะทำในสิ่งที่แบคฮยอนต้องการมาตลอด
“อย่าพูดว่าจะปล่อยแบคไป
ไหนใครบอกว่าแบคเป็นของพี่ไง? แบคก็อยู่ตรงนี้
เป็นของพี่ชานยอลคนเดียวทั้งตัวและหัวใจ”
ร่างเล็กหยุดพูดไปก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบกลีบปากหยักที่ตัดเพ้อเมื่อกี้แล้วผละออก
“แบคฮยอน” ครางเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงเบาหวิวราวกับยังไม่ค่อยเข้าใจนัก
“แบครักพี่ชานยอลนะคะ
หัวใจแบคเป็นของพี่… มาตั้งนานแล้ว” นิ้วชี้ช้อนเอาสร้อยลูกกุญแจขึ้นมาจากคอชานยอลเล็กน้อยก่อนจะกดจูบลงไปก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้ายออกมา
“พี่ชานยอลจำไว้นะคะ
แบครักพี่ชานยอล หัวใจแบคเป็นของพี่
หากพี่ไม่รักแบคแล้วหรือพี่เป็นคนทำลายหัวใจแบคด้วยมือพี่เองแล้ว
มันจะไม่มีให้พี่เป็นครั้งที่สอง เพราะมันมีแค่ดวงเดียว
เพราะฉะนั้นได้โปรดอย่าทำร้ายหัวใจของแบคเลยนะคะ หากวันไหนพี่ทำ แบคคงรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น”
พูดจบน้ำตาก็ไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว
จนร่างสูงต้องใช้มือเช็ดน้ำตานั้นเบาๆ ช่วงนี้เธอรู้สึกอ่อนไหวเหลือเกิน
พูดอะไรนิดหน่อยก็พาลร้องไห้ดื้อๆ
“พี่สัญญาว่ามันจะไม่มีวันนั้น”
ดึงร่างเล็กที่คร่อมอยู่ทั้งๆที่ส่วนเชื่อมยังคาอยู่อย่างนั้น
ยิ่งเห็นแบคฮยอนร้องไห้เพราะเขายิ่งทำให้เขาเหมือนโดนกรีดใจด้วยมือตัวเอง
นี้เขาทำถูกแล้วใช่ไหม?
“ฮึก ฮือ อะ อือ” เสียงสะอื้นที่ทาบอยู่บนทำให้ชานยอลเผลอดึงร่างเล็กเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม
ทำให้ส่วนที่ยังคาอยู่เสียดสี จากที่อารมณ์เริ่มหายก็กลับมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงการตอดรัดของช่องทาง
“ทะลึ่งนะที่รัก
ขนาดร้องไห้ยังรัดของพี่แน่นจนจะแตกโดยยังไม่ได้กระแทกเลยนะ”
ดันร่างเล็กออกจากอกก่อนจะยิ้มกริ่มให้อีกคนที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึง
ดวงตาเรียวเล็กที่ยังมีน้ำตาคลออยู่ดูยั่วยวนไม่น้อย
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต
เอาออกไปเลย ไม่เอาแล้ว”
กำปั้นเล็กทุบรัวหน้าอกแกร่งที่กระเพื้อมขึ้นลงเพราะเสียงหัวเราะ
“โรคจิตก็ผัวของเมียไงครับ
เอาต่อเถอะนะ ยังทดสอบแรงกระแทกได้ครึ่งทางเอง รอบเดียวนะครับแล้วไปต่อกันที่คอนโด” ยิ้มกริ่มก่อนจะเริ่มสวนสะโพกกดเน้นจนอีกคนครางออกมาแทนคำตอบ
“อือ อะ จะทำไรก็ทำ
อะ อ๊าส์ อยากกลับคอนโดแล้วอ่า”
เรียวแขนคล้องคอก่อนจะกดจูบอ้อนโดยไม่ลืมร่อนเอวไปพร้อมกับการสวนสะโพกของอีกคน
“อ่าส์
ขอแตกเลยละกันไม่ไหวละ” ไม่พูดเปล่าจับร่างเล็กให้เอนไปอิงพวงมาลัยด้านหลังดันตัวเองขึ้นเล็กน้อย
จับขาเรียวให้กว้างกว่าเดิม ก่อนจะกระแทกเร็วๆและถี่
“อึก อ๊าส์” เป็นแบคฮยอนที่เสร็จตั้งแต่อีกคนกระแทกรอบแรก
ชานยอลกระแทกสี่ห้าครั้งก่อนจะคาแท่งเอ็นไว้สักพักเพื่อให้น้ำรักปล่อยจนสุดแล้วจึงถอนออกพรางหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำของตัวเองที่ไหลออกตามมา
“อืม” ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งเพื่อเอาใจแต่ละคนก่อนจะละออกแล้วก็บอกรักกันราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น